กัญชา (ยา)
กัญชา (ยา)
กัญชา หรือ ต้นกัญชาโดยตั้งใจใช้เป็นยาที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทและเป็นยารักษาโรค ในทางเภสัชวิทยา องค์ประกอบที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทหลักของกัญชา
คือ เตตระไฮโดรแคนนาบินอล (THC) ซึ่งเป็นสารประกอบหนึ่งจาก 483 ชนิดที่ทราบว่าพบในต้นกัญชา
ซึ่งสารอื่นที่พบมีแคนนาบินอยด์อีกอย่างน้อย 84 ชนิด เช่น
- แคนนาบิไดออล (CBD)
- แคนนาบินอล (CBN)
- เตตระไฮโดรแคนนาบิวาริน (THCV)
- แคนนาบิเจอรอล (CBG)
มนุษย์มักบริโภคกัญชาเพื่อผลที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทและสรีรวิทยาของมัน ซึ่งรวมถึงภาวะเคลิ้มสุข ความผ่อนคลาย และความอยากอาหารเพิ่มขึ้น
ผลข้างเคียงไม่พึงปรารถนาบางครั้งรวมถึงความจำระยะสั้นลดลง ปากแห้ง ทักษะการเคลื่อนไหวบกพร่อง ตาแดง และ รู้สึกหวาดระแวงหรือวิตกกังวล
ปัจจุบันกัญชาใช้เป็นยานันทนาการหรือยารักษาโรค และเป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมทางศาสนาหรือวิญญาณ
มีบันทึกการใช้กัญชาครั้งแรกตั้งแต่สหัสวรรษที่ 3 ก่อนคริสตกาล นับแต่ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 กัญชาถูกจำกัดตามกฎหมาย
โดยปัจจุบันการครอบครอง การใช้หรือการขายการเตรียมกัญชาปรุงสำเร็จซึ่งมีแคนนาบินอยด์ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทผิดกฎหมายในประเทศส่วนใหญ่ทั่วโลก
สหประชาชาติแถลงว่า กัญชาเป็นยาผิดกฎหมายที่ใช้มากที่สุดในโลกในปี 2547
สหประชาชาติประมาณการบริโภคกัญชาทั่วโลกชี้ว่าประมาณ 4% ของประชากรผู้ใหญ่ทั่วโลก (162 ล้านคน)
ใช้กัญชาทุกปี และประมาณ 0.6% (22.5) ใช้ทุกวัน
การเรียกร้องให้กัญชาชอบด้วยกฎหมาย
ปัจจุบันในประเทศไทยในกัญชาถูกจัดเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522
ซึ่งมีโทษทางอาญากับผู้เสพและผู้ครอบครองและไม่มีการอนุญาตให้นำมาใช้ในทางการแพทย์แต่อย่างใด
เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2558 มีการจัดงานเสวนาในหัวข้อ "ความเป็นไปได้ในการลดทอนความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด:
กรณีศึกษากัญชา" พร้อมใจกันจัดกิจกรรมเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนกฎหมายเกี่ยวกับกัญชา ด้วยเหตุผลหลักๆ 3 ข้อ ได้แก่
บทลงโทษรุนแรงเกินไป การลงทุนปราบปรามกัญชาเสียมากกว่าได้ และการจับกุมทำให้ผู้เสพกัญชามีประวัติอาชญากรติดตัว ทำให้หางานทำยาก